nis̄ạy thī̀ dī t̀x s̄uk̄hp̣hāph: Pạccạy pæd prakār thī̀ ch̀wy yụ̄d xāyuk̄hạy pị h̄lāy thṣ̄wrrs̄ʹ

กระจกรายวัน นิสัยที่ดีต่อสุขภาพ: ปัจจัยแปดประการที่ช่วยยืดอายุขัยไปหลายทศวรรษ สเตฟาน พาร์สช์ dpa • 11จ. • ใช้เวลาอ่าน 3 นาที การศึกษาระยะยาวแสดงให้เห็นว่าผู้ชายอายุ 40 ปีสามารถมีอายุยืนยาวขึ้นได้ 23.7 ปี และผู้หญิงสามารถมีอายุยืนยาวขึ้นได้ 22.6 ปี ด้วยวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี การสูบบุหรี่และฝิ่นมีผลเสียอย่างยิ่ง การออกกำลังกายเป็นนิสัยที่สามารถยืดอายุขัยได้ ด้วยวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ผู้ชายวัย 40 ปีสามารถมีชีวิตอยู่ได้นานกว่าผู้ชายที่เป็นอันตรายถึง 23.7 ปีโดยเฉลี่ย สำหรับผู้หญิง ส่วนต่างนี้คือ 22.6 ปี นี่เป็นผลลัพธ์จากการวิเคราะห์การศึกษาวิจัยระยะยาวของอดีตสมาชิกกองทัพสหรัฐฯ ซึ่งทีมวิจัยนำเสนอในการประชุมนานาชาติ “โภชนาการ 2023” ที่เมืองบอสตัน การศึกษาอีกชิ้นหนึ่งแสดงให้เห็นว่าข้อมูลสำคัญเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเป็นอย่างไร ทีมที่นำโดย Xuan-Mai Nguyen จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ ได้วิเคราะห์ข้อมูลจากทหารผ่านศึกสหรัฐฯ กว่า 700,000 คน อายุระหว่าง 40 ถึง 99 ปี โดยกำหนดนิสัย 8 ประการว่าเป็นวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดี ได้แก่ ออกกำลังกาย ไม่สูบบุหรี่ รับมือกับความเครียดได้ดี รับประทานอาหารได้ดี ไม่ดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป นอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอและสม่ำเสมอ รักษาความสัมพันธ์ทางสังคมเชิงบวก และไม่ใช้ยากลุ่มฝิ่น - การต้องพึ่งยาแก้ปวด “เราประหลาดใจมากที่คุณจะได้รับผลประโยชน์จากปัจจัยการดำเนินชีวิตหนึ่ง สอง สาม หรือทั้งหมดแปดประการ” เหงียนกล่าวในแถลงการณ์จาก American Society for Nutrition ปัจจัยเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด ได้แก่ การออกกำลังกายต่ำ การพึ่งยาแก้ปวดกลุ่มฝิ่น และการสูบบุหรี่ ปัจจัยเหล่านี้แต่ละปัจจัยมีความสัมพันธ์กับความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นของการเสียชีวิต 30 ถึง 45 เปอร์เซ็นต์ในช่วงระยะเวลาการศึกษา ยิ่งเร็วเท่าไรก็ยิ่งดี แต่ถึงแม้คุณจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วงอายุ 40, 50 หรือ 60 ปี ก็ยังมีประโยชน์อยู่ Xuan-Mai Nguyen จากมหาวิทยาลัยอิลลินอยส์ การจัดการกับความเครียดที่ไม่ดี การดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณมาก อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ และสุขอนามัยในการนอนหลับที่ไม่ดี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตประมาณร้อยละ 20 ในขณะที่การขาดการติดต่อทางสังคมที่ดี เพิ่มความเสี่ยงต่อการเสียชีวิตร้อยละ 5 แพทย์พบว่าการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตที่มีสุขภาพดีช่วยเพิ่มอายุขัยแม้ในวัยสูงอายุ “ยิ่งเร็วเท่าไหร่ก็ยิ่งดี แต่ถึงแม้คุณจะเปลี่ยนแปลงเพียงเล็กน้อยในช่วงอายุ 40, 50 หรือ 60 ปี ก็ยังมีประโยชน์อยู่” เหงียนเน้นย้ำ การเปลี่ยนสิ่งนี้จะช่วยให้คุณมีอายุยืนยาวขึ้น! ข้อมูลการศึกษานี้มาจากโครงการ Million Veteran Program ซึ่งเป็นโครงการวิจัยระดับชาติของสหรัฐอเมริกาที่ศึกษาว่ายีน วิถีชีวิต และประสบการณ์ทางการทหารส่งผลต่อสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของอดีตทหารอย่างไร การวิเคราะห์ของเหงียนและเพื่อนร่วมงาน พิจารณาข้อมูลจากทหารผ่านศึก 719,147 คน ที่รวบรวมระหว่างปี 2554 ถึง 2562 ลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งในเชิงป้องกัน ไลฟ์สไตล์ยังมีบทบาทสำคัญในการลดความเสี่ยงของโรคมะเร็ง ตามที่องค์การอนามัยโลก (WHO) ระบุว่า ปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง ได้แก่ แอลกอฮอล์ การออกกำลังกายต่ำ อาหารที่ไม่ดีต่อสุขภาพ โรคอ้วน เนื้อแดงและแปรรูป เครื่องดื่มหวาน การบริโภคยาสูบ และรังสีอัลตราไวโอเลต การศึกษาโดยสหพันธ์ควบคุมมะเร็งระหว่างประเทศ (UICC) พบว่าในประเทศที่พัฒนาแล้วที่มีรายได้สูงสิบประเทศ โดยเฉลี่ยแล้วหนึ่งในสามของผู้ตอบแบบสอบถามไม่ปฏิบัติตามคำแนะนำในการป้องกันโรคมะเร็ง ประเทศที่ตรวจสอบ ได้แก่ ออสเตรเลีย เยอรมนี ฝรั่งเศส สหราชอาณาจักร อิสราเอล ญี่ปุ่น แคนาดา สวีเดน สเปน และสหรัฐอเมริกา คนญี่ปุ่นมีความรู้น้อยที่สุด “สิ่งสำคัญคือต้องเข้าใจว่าผู้คนไม่ได้ดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงต่อโรคมะเร็งส่วนบุคคล เพราะพวกเขาไม่ทราบเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยง หรือว่าพวกเขาจะไม่ดำเนินการแม้จะทราบปัจจัยเสี่ยงแล้วก็ตาม” Pricivel Carrera จาก National Cancer Prevention กล่าว ตามคำแถลงของศูนย์วิจัยมะเร็งแห่งเยอรมนี (DKFZ) ในเมืองไฮเดลเบิร์ก ดังนั้น เธอร่วมกับ Silvia Calderazzo เพื่อนร่วมงาน DKFZ ของเธอ จึงวิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษาของ UICC ที่เกี่ยวข้องกับสถานะความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็ง พวกเขาพบว่าเมื่อจำนวนผู้มีความรู้ดีเกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งเพิ่มขึ้นหนึ่งเปอร์เซ็นต์ จำนวนผู้ที่ดำเนินการเพื่อลดความเสี่ยงจะเพิ่มขึ้นโดยเฉลี่ย 0.169 เปอร์เซ็นต์ ผู้คนในญี่ปุ่นได้รับข้อมูลน้อยที่สุดและมีแนวโน้มที่จะมีส่วนร่วมในการป้องกันโรคมะเร็งน้อยที่สุด แม้แต่ในประเทศเยอรมนี ผู้ตอบแบบสอบถามก็มีความรู้เกี่ยวกับปัจจัยเสี่ยงของโรคมะเร็งต่ำกว่าค่าเฉลี่ย “ในประเทศเยอรมนี ประมาณร้อยละ 40 ของผู้ป่วยโรคมะเร็งทั้งหมดถือว่าสามารถป้องกันได้ ผ่านการดำเนินชีวิตที่ดีต่อสุขภาพและการฉีดวัคซีน” คาร์เรรากล่าว Krack rāy wạn nis̄ạy thī̀ dī t̀x s̄uk̄hp̣hāph: Pạccạy pæd prakār thī̀ ch̀wy yụ̄d xāyuk̄hạy pị h̄lāy thṣ̄wrrs̄ʹ s̄ te fān phār̒ s̄ch̒ dpa• 11c. • Chı̂ welā x̀ān 3 nāthī kār ṣ̄ụks̄ʹā raya yāw s̄ædng h̄ı̂ h̄ĕn ẁā p̄hū̂chāy xāyu 40 pī s̄āmārt̄h mīxāyu yụ̄nyāw k̄hụ̂n dị̂ 23.7 Pī læa p̄hū̂ h̄ỵing s̄āmārt̄h mīxāyu yụ̄nyāw k̄hụ̂n dị̂ 22.6 Pī d̂wy wit̄hī chīwit thī̀ mī s̄uk̄hp̣hāph dī kār s̄ūb buh̄rī̀ læa f̄ìn mī p̄hl s̄eīy xỳāng yìng kār xxk kảlạng kāy pĕn nis̄ạy thī̀ s̄āmārt̄h yụ̄d xāyuk̄hạy dị̂ d̂wy wit̄hī chīwit thī̀ mī s̄uk̄hp̣hāph dī p̄hū̂chāy wạy 40 pī s̄āmārt̄h mī chīwit xyū̀ dị̂ nān kẁā p̄hū̂chāy thī̀ pĕn xạntrāy t̄hụng 23.7 Pī doy c̄helī̀y s̄ảh̄rạb p̄hū̂ h̄ỵing s̄̀wn t̀āng nī̂ khụ̄x 22.6 Pī nī̀ pĕn p̄hllạphṭh̒ cāk kār wikherāah̄̒ kār ṣ̄ụks̄ʹā wicạy raya yāw k̄hxng xdīt s̄māchik kxngthạph s̄h̄rạṭ̄h‡ sụ̀ng thīm wicạy nả s̄enx nı kār prachum nānāchāti “p̣hochnākār 2023” thī̀ meụ̄xng bxs̄tạn kār ṣ̄ụks̄ʹā xīk chîn h̄nụ̀ng s̄ædng h̄ı̂ h̄ĕn ẁā k̄ĥxmūl s̄ảkhạỵ keī̀yw kạb pạccạy s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng pĕn xỳāngrị thīm thī̀ nả doy Xuan-Mai Nguyen cāk mh̄āwithyālạy xillinxys̄̒ dị̂ wikherāah̄̒ k̄ĥxmūl cāk thh̄ārp̄h̀ānṣ̄ụk s̄h̄rạṭ̄h‡ kẁā 700,000 khn xāyu rah̄ẁāng 40 t̄hụng 99 pī doy kảh̄nd nis̄ạy 8 prakār ẁā pĕn wit̄hī chīwit thī̀ mī s̄uk̄hp̣hāph dī dị̂kæ̀ xxk kảlạng kāy mị̀ s̄ūb buh̄rī̀ rạbmụ̄x kạb khwāmkherīyd dị̂ dī rạb prathān xāh̄ār dị̂ dī mị̀ dụ̄̀m xælkxḥxl̒ māk kein pị nxn h̄lạb phạk p̄h̀xn h̄ı̂ pheīyng phx læa s̄m̀ảs̄emx rạks̄ʹā khwām s̄ạmphạnṭh̒ thāng s̄ạngkhm cheing bwk læa mị̀ chı̂ yāk lùm f̄ìn - kār t̂xng phụ̀ng yā kæ̂ pwd “reā prah̄lād cı māk thī̀ khuṇ ca dị̂ rạb p̄hl prayochn̒ cāk pạccạy kār dảnein chīwit h̄nụ̀ng s̄xng s̄ām h̄rụ̄x thậngh̄md pæd prakār” h̄engī y nk l̀ā w nı t̄hælngkārṇ̒ cāk American Society for Nutrition pạccạy s̄eī̀yng thī̀ h̄ıỵ̀ thī̀s̄ud dị̂kæ̀ kār xxk kảlạng kāy t̀ả kār phụ̀ng yā kæ̂ pwd klùm f̄ìn læa kār s̄ūb buh̄rī̀ pạccạy h̄el̀ā nī̂ tæ̀la pạccạy mī khwām s̄ạmphạnṭh̒ kạb khwām s̄eī̀yng thī̀ pheìm k̄hụ̂n k̄hxng kār s̄eīy chīwit 30 t̄hụng 45 pexr̒sĕnt̒ nı ch̀wng raya welā kār ṣ̄ụks̄ʹā yìng rĕw thèārị k̆ yìng dī tæ̀ t̄hụng mæ̂ khuṇ ca pelī̀ynpælng pheīyng lĕk n̂xy nı ch̀wng xāyu 40, 50 h̄rụ̄x 60 pī k̆ yạng mī prayochn̒ xyū̀ Xuan-Mai Nguyen cāk mh̄āwithyālạy xillinxys̄̒ kār cạdkār kạb khwāmkherīyd thī̀ mị̀ dī kār dụ̄̀m xælkxḥxl̒ nı primāṇ māk xāh̄ār thī̀ mị̀ dī t̀x s̄uk̄hp̣hāph læa s̄uk̄h xnāmạy nı kār nxn h̄lạb thī̀ mị̀ dī pheìm khwām s̄eī̀yng t̀x kār s̄eīy chīwit pramāṇ r̂xy la 20 nı k̄hṇa thī̀ kār k̄hād kār tidt̀x thāng s̄ạngkhm thī̀ dī pheìm khwām s̄eī̀yng t̀x kār s̄eīy chīwit r̂xy la 5 phæthy̒ phb ẁākār pelī̀ynpælng wit̄hī chīwit thī̀ mī s̄uk̄hp̣hāph dī ch̀wy pheìm xāyuk̄hạy mæ̂ nı wạy s̄ūng xāyu “yìng rĕw thèā h̄ịr̀ k̆ yìng dī tæ̀ t̄hụng mæ̂ khuṇ ca pelī̀ynpælng pheīyng lĕk n̂xy nı ch̀wng xāyu 40, 50 h̄rụ̄x 60 pī k̆ yạng mī prayochn̒ xyū̀” h̄engī yn nên ŷả kār pelī̀yn s̄ìng nī̂ ca ch̀wy h̄ı̂ khuṇ mīxāyu yụ̄nyāw k̄hụ̂n! K̄ĥxmūl kār ṣ̄ụks̄ʹā nī̂ mā cāk khorngkār Million Veteran Program sụ̀ng pĕn khorngkār wicạy radạb chāti k̄hxng s̄h̄rạṭ̄hxmerikā thī̀ ṣ̄ụks̄ʹā ẁā yīn wit̄hī chīwit læa pras̄bkārṇ̒ thāngkār thh̄ār s̄̀ng p̄hl t̀x s̄uk̄hp̣hāph læa khwām pĕn xyū̀ thī̀ dī k̄hxng xdīt thh̄ār xỳāngrị kār wikherāah̄̒ k̄hxng h̄engī yn læa pheụ̄̀xn r̀wm ngān phicārṇā k̄ĥxmūl cāk thh̄ārp̄h̀ānṣ̄ụk 719,147 khn thī̀ rwbrwm rah̄ẁāng pī 2554 t̄hụng 2562 ld khwām s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng nı cheing p̂xngkạn lịf̒ s̄tịl̒ yạng mī bthbāth s̄ảkhạỵ nı kār ld khwām s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng tām thī̀ xngkh̒kār xnāmạy lok (WHO) rabu ẁā pạccạy s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng dị̂kæ̀ xælkxḥxl̒ kār xxk kảlạng kāy t̀ả xāh̄ār thī̀ mị̀ dī t̀x s̄uk̄hp̣hāph rokh x̂wn neụ̄̂x dæng læa pærrūp kherụ̄̀xng dụ̄̀m h̄wān kār brip̣hokh yās̄ūb læa rạngs̄ī xạltrāwịxolet kār ṣ̄ụks̄ʹā doy s̄h̄phạnṭh̒ khwbkhum marĕng rah̄ẁāng pratheṣ̄ (UICC) phb ẁā nı pratheṣ̄ thī̀ phạtʹhnā læ̂w thī̀ mī rāy dị̂ s̄ūng s̄ib pratheṣ̄ doy c̄helī̀y læ̂w h̄nụ̀ng nı s̄ām k̄hxng p̄hū̂ txb bæbs̄xbt̄hām mị̀ pt̩ibạti tām khả næanả nı kār p̂xngkạn rokh marĕng pratheṣ̄ thī̀ trwc s̄xb dị̂kæ̀ xxs̄terleīy yexrmnī f̄rạ̀ngṣ̄es̄ s̄h̄ rāch xāṇācạkr xis̄rāxel ỵī̀pùn khænādā s̄wīden s̄pen læa s̄h̄rạṭ̄hxmerikā khn ỵī̀pùn mī khwām rū̂ n̂xy thī̀s̄ud “s̄ìng s̄ảkhạỵ khụ̄x t̂xng k̄hêācı ẁā p̄hū̂khn mị̀ dị̂ dảnein kār pheụ̄̀x ld khwām s̄eī̀yng t̀x rokh marĕng s̄̀wn bukhkhl pherāa phwk k̄heā mị̀ thrāb keī̀yw kạb pạccạy s̄eī̀yng h̄rụ̄x ẁā phwk k̄heā ca mị̀ dảnein kār mæ̂ ca thrāb pạccạy s̄eī̀yng læ̂w k̆tām” Pricivel Carrera cāk National Cancer Prevention kl̀āw tām khảt̄hælng k̄hxng ṣ̄ūny̒wicạy marĕng h̄æ̀ng yexrmnī (DKFZ) nı meụ̄xng ḥịdel beir̒k dạng nận ṭhex r̀wm kạb Silvia Calderazzo pheụ̄̀xn r̀wm ngān DKFZ k̄hxng ṭhex cụng wikherāah̄̒ k̄ĥxmūl cāk kār ṣ̄ụks̄ʹā k̄hxng UICC thī̀ keī̀ywk̄ĥxng kạb s̄t̄hāna khwām rū̂ keī̀yw kạb pạccạy s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng phwk k̄heā phb ẁā meụ̄̀x cảnwn p̄hū̂ mī khwām rū̂ dī keī̀yw kạb pạccạy s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng pheìm k̄hụ̂n h̄nụ̀ng pexr̒sĕnt̒ cảnwn p̄hū̂ thī̀ dảnein kār pheụ̄̀x ld khwām s̄eī̀yng ca pheìm k̄hụ̂n doy c̄helī̀y 0.169 Pexr̒sĕnt̒ p̄hū̂khn nı ỵī̀pùn dị̂ rạb k̄ĥxmūl n̂xy thī̀s̄ud læa mī næw nôm thī̀ ca mī s̄̀wn r̀wm nı kār p̂xngkạn rokh marĕng n̂xy thī̀s̄ud mæ̂tæ̀ nı pratheṣ̄ yexrmnī p̄hū̂ txb bæbs̄xbt̄hām k̆ mī khwām rū̂ keī̀yw kạb pạccạy s̄eī̀yng k̄hxng rokh marĕng t̀ả kẁā kh̀ā c̄helī̀y “nı pratheṣ̄ yexrmnī pramāṇ r̂xy la 40 k̄hxng p̄hū̂ p̀wy rokh marĕng thậngh̄md t̄hụ̄xẁā s̄āmārt̄h p̂xngkạn dị̂ p̄h̀ān kār dảnein chīwit thī̀ dī t̀x s̄uk̄hp̣hāph læa kār c̄hīd wạkhsīn” khār̒re rā kl̀āw