Wednesday, January 8, 2025

Elvis Presley - nạk pt̩iwạti p̄hū̂ thryṣ̄ t̀x kār pt̩iwạti k̄hxng tnxeng

นอย ซูร์เชอร์ ไซตุง เยอรมนี Elvis Presley - นักปฏิวัติผู้ทรยศต่อการปฏิวัติของตนเอง Jean-Martin Büttner • 3 ชั่วโมง • เวลาอ่าน 4 นาที เอลวิส เพรสลีย์ปลุกเร้าดนตรีของคนผิวขาวและปรับแต่งดนตรีของคนผิวดำ จอห์น เลนนอน ซึ่งในฐานะชาวอังกฤษมีแนวโน้มที่จะแดกดันและเป็นคนที่เด็ดขาด สรุปความขัดแย้งของไอดอลของเขาออกเป็นสองประโยค: "ไม่มีอะไรมาก่อนเอลวิส" เดอะบีเทิลผู้ซึ่งตกใจกับชายหนุ่มชาวอเมริกันกล่าว . และเมื่อเอลวิส เพรสลีย์เสียชีวิตเมื่อวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2520 เลนนอนก็แสดงความคิดเห็นแบบพูดน้อยเหมือนกัน: "เอลวิสเสียชีวิตในวันที่เขาเข้าร่วมกองทัพ" ชีวประวัติและตัวละครของนักร้องจากเมืองทูเพอโล รัฐมิสซิสซิปปี้ ถูกแยกออกจากกันโดยสิ่งที่ตรงกันข้าม เอลวิสเป็นทั้งนักปฏิวัติที่สร้างพลังให้กับวัฒนธรรมอเมริกัน และเป็นพวกต่อต้านการปฏิวัติของเขาเองที่ยอมให้ตัวเองถูกควบคุมโดยฮอลลีวูดและลาสเวกัส และเมื่ออายุ 42 ปี เขาเสียชีวิตในบ้านพักของเขาในเกรซแลนด์จากยาที่เขาสั่งจ่าย การชันสูตรพลิกศพพบยากระตุ้น ยาระงับประสาท ยาฝิ่น และยาทุกประเภทเพื่อแก้ไขผลข้างเคียงของยา ร่างกายของเขาหนักกว่า 120 กิโลกรัม ชายหนุ่มรูปงามที่มีปากเย้ายวนและเปลือกตาหนักเริ่มได้เป็นอย่างดี ภายใต้โปรดิวเซอร์ผู้เก่งกาจอย่าง Sam Phillips ซึ่งเปิดรับนักดนตรีขาวดำไม่แพ้กัน Elvis Presley ประสบความสำเร็จในการผสมผสานระหว่างเพลงบลูส์และคันทรี่ ความเย้ายวนใจของคนผิวดำ และความเศร้าโศกของคนผิวขาวในช่วงกลางทศวรรษ 1950 ชายผิวขาวที่สามารถร้องเพลงได้เหมือนคนผิวดำ: Sam Phillips ตามหานักดนตรีเช่นนี้มาเป็นเวลานาน Rock'n'Roll เป็นชื่อที่ตั้งให้กับการผสมผสานระหว่างสไตล์และวัฒนธรรมอย่างล้นหลาม - คำสแลงสีดำที่หมายถึงเรื่องเพศ ในฐานะนักดนตรี เพรสลีย์ยังคงประสบความสำเร็จในการตีความผลงานที่ยอดเยี่ยมในทศวรรษ 1960 แต่ก็ตีความผลงานที่ต่ำกว่าคุณค่าทางศิลปะของเขามากเช่นกัน มันเกิดขึ้นระหว่างพักอยู่ที่สตูดิโอ Sun ในเมืองเมมฟิส ตลอดทั้งวัน ฟิลลิปส์ซ้อมเพลงและสไตล์ร่วมกับเพรสลีย์และวงดนตรีของเขา ชายหนุ่มสามารถร้องเพลงได้ ไม่ต้องสงสัยเลย แต่ไม่มีอะไรที่เขาพูดฟังดูดีไปกว่าการเรียนรู้ที่ดี ขณะที่โปรดิวเซอร์หยุดเพื่อชมนักดนตรีที่เหนื่อยล้า เอลวิสก็หยิบกีตาร์ขึ้นมาและร้องเพลงที่เขาชอบจริงๆ อย่างไม่ระมัดระวัง นั่นคือเพลง "That's Alright" เวอร์ชันเร่งความเร็วโดย Arthur Crudup นักดนตรีบลูส์ผิวดำ ต้นฉบับมีอายุเจ็ดขวบและฟังดูหนักแน่นและมืดมน การตีความของเอลวิสดูหลวมและมีชีวิตชีวา จู่ๆ Sam Phillips ก็ปรากฏตัวขึ้นในห้องบันทึกเสียง เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าเอลวิสรู้จักเพลงนี้ด้วยซ้ำ: "คุณกำลังทำอะไรอยู่?" เขาถาม “ฉันไม่รู้” เอลวิสกล่าว ฟิลลิปส์: “ทำใหม่ เราจะบันทึกมันไว้” นั่นคือวันที่ 4 กรกฎาคม พ.ศ. 2497 ซึ่งเป็นวันจันทร์ ด้วยสองนาทีนี้ คนขับรถบรรทุกวัย 19 ปีจะเปลี่ยนศตวรรษที่ 20 เอลวิส เพรสลีย์ปลุกเร้าดนตรีของคนผิวขาวและปรับแต่งดนตรีของคนผิวดำ เขาฟังดูเป็นขาวดำ ดูเป็นชายและหญิงในเวลาเดียวกัน ร้องเพลงด้วยความหลงใหลและมีอารมณ์ขัน เขาเป็นเชื้อสายโปรเตสแตนต์และยิว แอฟริกันอเมริกัน และเชื้อสายพื้นเมือง เอลวิสมีเสน่ห์ในฐานะผู้ชายที่มีเสน่ห์และร้องเพลงไม่เหมือนใคร และเขาเต้นรำด้วยความสง่างามตระการตาแบบที่ Puritan America ไม่เคยเห็นมาก่อน เอลวิสเต้นรำด้วยความสง่างามตระการตาในแบบที่ Puritan America ไม่เคยเห็นมาก่อน แนวโน้มร้ายแรงที่จะยอมจำนน แต่ก็เป็นเอลวิสเช่นกันที่จะทรยศต่อการกบฏของเขาต่ออนุสัญญาของคนผิวขาว ชายหนุ่มผู้ไร้เดียงสาคนนี้มีแนวโน้มที่จะมีทัศนคติที่ยอมแพ้ต่อผู้มีอำนาจ แม้กระทั่งถึงขั้นยอมจำนน - และแสดงความโกรธแค้นอย่างหลงตัวเองเมื่อความปรารถนาของเขาถูกปฏิเสธ ตัวละครคู่ของเขามักอธิบายโดยเจสซีฝาแฝดที่ยังไม่เกิดของเอลวิส ซึ่งผู้รอดชีวิตจินตนาการถึงบทสนทนาตลอดชีวิตของเขา เป็นเรื่องเหมาะสมสำหรับการยอมจำนนของเขาที่หลังจากที่เอลวิส เพรสลีย์บันทึกเสียงที่ยอดเยี่ยมขอบคุณแซม ฟิลลิปส์ เขาก็ยอมให้ตัวเองถูกคนแอบอ้างเสนอตัวเป็นผู้จัดการของเขาให้มืดบอด ชื่อของเขาคือทอม ปาร์กเกอร์ และเขาสัญญากับเด็กชายที่เติบโตมาด้วยความยากจนอย่างน่าสังเวชว่าเขาจะทำให้เขาเป็นเศรษฐี และแน่นอนว่าตัวคุณเองด้วย ภายใต้การนำแบบเผด็จการของที่ปรึกษาจอมบิดเบือน เอลวิส เพรสลีย์ไปเยอรมนีเป็นครั้งแรกในฐานะทหารอาชีพ ซึ่งเขาเริ่มมีอาการเสพติดยาบ้าและยากล่อมประสาท ในปีพ.ศ. 2501 กษัตริย์แห่ง Rock'n'Roll เดินทางมายังประเทศเยอรมนีผ่านทาง Bremerhaven เพื่อทำหน้าที่รับราชการทหาร หลังจากกลับมาเขาก็ย้ายจากเมมฟิสไปฮอลลีวูด ที่นั่นเขาเล่นภาพล้อเลียนตัวเองในภาพยนตร์ที่ประสบความสำเร็จทางการเงินเกือบสามโหล แต่ไม่มีค่าทางศิลปะในฐานะนักดนตรี เขายังคงตีความได้อย่างยอดเยี่ยมในทศวรรษ 1960 ("Fever", "Long Black Limousine") แต่เขาก็ผลิตผลงานที่ต่ำกว่านั้นด้วย คุณค่าทางศิลปะของตัวเอง (“Aloha Oe”) นักร้องใช้เวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาอิดโรยในเกรซแลนด์ต่อหน้าเพื่อน ๆ ของเขา Nxy sūr̒ chex r̒ sị tung yexrmnī Elvis Presley - nạk pt̩iwạti p̄hū̂ thryṣ̄ t̀x kār pt̩iwạti k̄hxng tnxeng Jean-Martin Büttner• 3 chạ̀wmong• welā x̀ān 4 nāthī xe l wis̄ phe rs̄ līy̒ pluk rêā dntrī k̄hxng khn p̄hiw k̄hāw læa prạb tæ̀ng dntrī k̄hxng khn p̄hiw dả cxh̄̒n len nxn sụ̀ng nı ṭ̄hāna chāw xạngkvs̄ʹ mī næw nôm thī̀ ca dækdạn læa pĕn khn thī̀ dĕd k̄hād s̄rup khwām k̄hạd yæ̂ng k̄hxng xị dxl k̄hxng k̄heā xxk pĕn s̄xng prayokh: "Mị̀mī xarị mā k̀xn xe l wis̄" dexa bī theil p̄hū̂ sụ̀ng tkcı kạb chāy h̄nùm chāw xmerikạn kl̀āw. Læa meụ̄̀x xe l wis̄ phe rs̄ līy̒ s̄eīy chīwit meụ̄̀x wạn thī̀ 16 s̄ingh̄ākhm ph.Ṣ̄. 2520 Len nxn k̆ s̄ædng khwām khid h̄ĕn bæb phūd n̂xy h̄emụ̄xn kạn: "Xe l wi s̄ s̄eīy chīwit nı wạn thī̀ k̄heā k̄hêā r̀wm kxngthạph" chīwprawạti læa tạw lakhr k̄hxng nạk r̂xng cāk meụ̄xng thū phe xlo rạṭ̄h mis̄sis̄ sip pī̂ t̄hūk yæk xxk cāk kạn doy s̄ìng thī̀ trng kạn k̄ĥām xe l wi s̄ pĕn thậng nạk pt̩iwạti thī̀ s̄r̂āng phlạng h̄ı̂ kạb wạtʹhnṭhrrm xmerikạn læa pĕn phwk t̀x t̂ān kār pt̩iwạti k̄hxng k̄heā xeng thī̀ yxm h̄ı̂ tạw xeng t̄hūk khwb khum doy ḥxl lī wūd læa lā s̄ wekạ s̄ læa meụ̄̀x xāyu 42 pī k̄heā s̄eīy chīwit nı b̂ān phạk k̄hxng k̄heā nı kers lænd̒ cāk yā thī̀ k̄heā s̄ạ̀ng c̀āy kār chạns̄ūtr phlikṣ̄ph phb yāk ra tûn yā rangạb pras̄āth yā f̄ìn læa yā thuk prap̣heth pheụ̄̀x kæ̂k̄hị p̄hl k̄ĥāng kheīyng k̄hxng yā r̀āngkāy k̄hxng k̄heā h̄nạk kẁā 120 kilokrạm chāy h̄nùm rūp ngām thī̀ mī pāk yêā ywn læa pelụ̄xk tā h̄nạk reìm dị̂ pĕn xỳāng dī p̣hāy tı̂ pordiwsexr̒ p̄hū̂ kèngkāc xỳāng Sam Phillips sụ̀ng peid rạb nạk dntrī k̄hāw dả mị̀ phæ̂ kạn Elvis Presley pras̄b khwām s̄ảrĕc nı kār p̄hs̄m p̄hs̄ān rah̄ẁāng phe lng blūs̄̒ læa khạn thrī̀ khwām yêā ywn cı k̄hxng khn p̄hiw dả læa khwām ṣ̄er̂ā ṣ̄ok k̄hxng khn p̄hiw k̄hāw nı ch̀wng klāng thṣ̄wrrs̄ʹ 1950 chāy p̄hiw k̄hāw thī̀ s̄āmārt̄h r̂xng phelng dị̂ h̄emụ̄xn khn p̄hiw dả: Sam Phillips tām h̄ā nạk dntrī chèn nī̂ mā pĕn welā nān Rock'n'Roll pĕn chụ̄̀x thī̀ tậng h̄ı̂ kạb kār p̄hs̄m p̄hs̄ān rah̄ẁāng s̄tịl̒ læa wạtʹhnṭhrrm xỳāng l̂nh̄lām - khả s̄læng s̄ī dả thī̀ h̄māy t̄hụng reụ̄̀xng pheṣ̄ nı ṭ̄hāna nạk dntrī phe rs̄ līy̒ yạng khng pras̄b khwām s̄ảrĕc nı kār tīkhwām p̄hl ngān thī̀ yxd yeī̀ym nı thṣ̄wrrs̄ʹ 1960 tæ̀ k̆ tīkhwām p̄hl ngān thī̀ t̀ả kẁā khuṇkh̀ā thāng ṣ̄ilpa k̄hxng k̄heā māk chèn kạn mạn keid k̄hụ̂n rah̄ẁāng phạk xyū̀ thī̀ s̄tū di xo Sun nı meụ̄xng memfis̄ tlxd thậng wạn fil li ps̄̒ ŝxm phelng læa s̄tịl̒ r̀wm kạb phe rs̄ līy̒ læa wng dntrī k̄hxng k̄heā chāy h̄nùm s̄āmārt̄h r̂xng phelng dị̂ mị̀ t̂xng s̄ngs̄ạy ley tæ̀ mị̀mī xarị thī̀ k̄heā phūd fạng dū dī pị kẁā kār reīyn rū̂ thī̀ dī k̄hṇa thī̀ pordiwsexr̒ h̄yud pheụ̄̀x chm nạk dntrī thī̀ h̄enụ̄̀xy l̂ā xe l wi s̄k̆ h̄yib kītār̒ k̄hụ̂n mā læa r̂xng phelng thī̀ k̄heā chxb cring«xỳāng mị̀ ramạdrawạng nạ̀n khụ̄x phelng"That's Alright" wexr̒chạn rèng khwāmrĕw doy Arthur Crudup nạk dntrī blūs̄̒ p̄hiw dả t̂nc̄hbạb mīxāyu cĕd k̄hwb læa fạng dū h̄nạk næ̀n læa mụ̄dmn kār tīkhwām k̄hxng xe l wi s̄dū h̄lwm læa mī chīwit chīwā cū̀«Sam Phillips k̆ prākt̩ tạw k̄hụ̂n nı h̄̂xng bạnthụk s̄eīyng k̄heā mị̀ xyāk ca cheụ̄̀x ley ẁā xe l wi s̄ rū̂cạk phelng nī̂ d̂wy ŝả: "Khuṇ kảlạng thả xarị xyū̀?" K̄heā t̄hām “c̄hạn mị̀rū̂” xe l wi s̄k l̀ā w fil li ps̄̒: “Thả h̄ım̀ reā cabạn thụk mạn wị̂” nạ̀n khụ̄x wạn thī̀ 4 krkḍākhm ph.Ṣ̄. 2497 Sụ̀ng pĕn wạn cạnthr̒ d̂wy s̄xng nāthī nī̂ khn k̄hạb rt̄h brrthuk wạy 19 pī ca pelī̀yn ṣ̄twrrs̄ʹ thī̀ 20 xe l wis̄ phe rs̄ līy̒ pluk rêā dntrī k̄hxng khn p̄hiw k̄hāw læa prạb tæ̀ng dntrī k̄hxng khn p̄hiw dả k̄heā fạng dū pĕn k̄hāw dả dū pĕn chāy læa h̄ỵing nı welā deīywkạn r̂xng phelng d̂wy khwām h̄lngh̄ıl læa mī xārmṇ̒ k̄hạn k̄heā pĕn cheụ̄̂x s̄āy portes̄tænt̒ læa yiw xæ f ri kạn xmerikạn læa cheụ̄̂x s̄āy phụ̄̂n meụ̄xng xe l wi s̄mī s̄eǹh̄̒ nı ṭ̄hāna p̄hū̂chāy thī̀ mī s̄eǹh̄̒ læa r̂xng phelng mị̀ h̄emụ̄xn khır læa k̄heā tênrả d̂wy khwām s̄ng̀ā ngām trakār tā bæb thī̀ Puritan America mị̀ khey h̄ĕn mā k̀xn xe l wi s̄ tênrả d̂wy khwām s̄ng̀ā ngām trakār tā nı bæb thī̀ Puritan America mị̀ khey h̄ĕn mā k̀xn næw nôm r̂āy ræng thī̀ ca yxm cảnn tæ̀ k̆ pĕn xe l wi s̄ chèn kạn thī̀ ca thryṣ̄ t̀x kār kbt̩ k̄hxng k̄heā t̀x xnus̄ạỵỵā k̄hxng khn p̄hiw k̄hāw chāy h̄nùm p̄hū̂ rị̂ deīyng s̄ā khn nī̂ mī næw nôm thī̀ ca mī thạṣ̄nkhti thī̀ yxm phæ̂ t̀x p̄hū̂ mī xảnāc mæ̂ krathạ̀ng t̄hụng k̄hận yxm cảnn - læa s̄ædng khwām korṭh khæ̂n xỳāng h̄lng tạw xeng meụ̄̀x khwām prārt̄hnā k̄hxng k̄heā t̄hūk pt̩is̄eṭh tạw lakhr khū̀ k̄hxng k̄heā mạk xṭhibāy doy ces̄ sī f̄āf̄æd thī̀ yạng mị̀ keid k̄hxng xe l wis̄ sụ̀ng p̄hū̂ rxd chīwit cintnākār t̄hụng bth s̄nthnā tlxd chīwit k̄hxng k̄heā pĕn reụ̄̀xng h̄emāa s̄m s̄ảh̄rạb kār yxm cảnn k̄hxng k̄heā thī̀ h̄lạng cāk thī̀ xe l wis̄ phe rs̄ līy̒ bạnthụk s̄eīyng thī̀ yxd yeī̀ym k̄hxbkhuṇ sæm fil li ps̄̒ k̄heā k̆ yxm h̄ı̂ tạw xeng t̄hūk khn xæb x̂āng s̄enx tạw pĕn p̄hū̂ cạdkār k̄hxng k̄heā h̄ı̂ mụ̄d bxd chụ̄̀x k̄hxng k̄heā khụ̄x thxm pār̒ k kexr̒ læa k̄heā s̄ạỵỵā kạb dĕk chāy thī̀ teibto mā d̂wy khwām yākcn xỳāng ǹā s̄ạngwech ẁā k̄heā ca thảh̄ı̂ k̄heā pĕn ṣ̄ers̄ʹṭ̄hī læa næ̀nxn ẁā tạw khuṇ xeng d̂wy p̣hāy tı̂ kārnả bæb p̄hed̆ckār k̄hxng thī̀ prụks̄ʹā cxm bidbeụ̄xn xe l wis̄ phe rs̄ līy̒ pị yexrmnī pĕn khrậng ræk nı ṭ̄hāna thh̄ār xāchīph sụ̀ng k̄heā reìm mī xākār s̄eph tid yāb̂ā læa yā kl̀xm pras̄āth nı pīph.Ṣ̄. 2501 Ks̄ʹạtriy̒ h̄æ̀ng Rock'n'Roll dein thāng māyạng pratheṣ̄ yexrmnī p̄h̀ān thāng Bremerhaven pheụ̄̀x thả h̄n̂āthī̀ rạb rāchkār thh̄ār h̄lạng cāk klạb mā k̄heā k̆ ŷāy cāk memfis̄ pị ḥxl lī wūd thī̀ nạ̀n k̄heā lèn p̣hāph l̂x leīyn tạw xeng nı p̣hāphyntr̒ thī̀ pras̄b khwām s̄ảrĕc thāngkār ngein keụ̄xb s̄ām h̄ol tæ̀ mị̀mī kh̀ā thāng ṣ̄ilpa nı ṭ̄hāna nạk dntrī k̄heā yạng khng tīkhwām dị̂ xỳāng yxd yeī̀ym nı thṣ̄wrrs̄ʹ 1960 ("Fever", "Long Black Limousine") tæ̀ k̄heā k̆ p̄hlitp̄hl ngān thī̀ t̀ả kẁā nận d̂wy khuṇkh̀ā thāng ṣ̄ilpa k̄hxng tạw xeng (“Aloha Oe”) nạk r̂xng chı̂ welā mị̀ kī̀ pī thī̀ p̄h̀ān mā xidroy nı kers lænd̒ t̀x h̄n̂ā pheụ̄̀xn «k̄hxng k̄heā